• Home
  • บันเทิงไทย
  • “เอ๋” ภรรยา “เมฆ วินัย” ร่ำไห้เปิดใจ พร้อมเผยคำพูดสุดท้ายของสามี

“เอ๋” ภรรยา “เมฆ วินัย” ร่ำไห้เปิดใจ พร้อมเผยคำพูดสุดท้ายของสามี

Image

เอ๋ อรชัญญาช์ภรรยา เมฆ วินัย ไกรบุตร ร่ำไห้เปิดใจครั้งแรกหลังสามีเสียชีวิต เผยคำพูดสุดท้าย พร้อมยกมือไหม้ขออโหสิกรรมแทน

จากกรณีการจากไปของ อดีตพระเอกดัง เมฆ วินัย ไกรบุตร หลังจากไปอย่างสงบ เมื่อค่ำคืนของวันที่ 20 มีนาคม 2567 เวลา 23:49 น. ที่ผ่านมา จากภาวะความดันตก ติดเชื้อในกระแสเลือด หลังป่วยเป็นโรคตุ่มน้ำพองเป็นระยะเวลานานถึง 5 ปี

ที่มา : วินัย ไกรบุตร

เอ๋ ภรรยา เมฆ วินัย ร่ำไห้เปิดใจ

ล่าสุด เอ๋ อรชัญญาช์ ภรรยา เมฆ วินัย ออกมาเปิดใจทั้งน้ำตาหลังสามีเสียชีวิตว่า “พี่เมฆเข้ารพ.ล่าสุดคือวันที่ 18 แต่ก่อนหน้านั้นวันที่ 15 น้องเล่าให้ฟังว่าพี่เมฆหยุดหลายใจไปแป๊ปนึงตอนที่พี่ไปรับเด็ก พอกลับไปถึงน้องก็กระตุ้นให้ฟื้น ตอนแรกคิดว่าเขาอาจจะแค่ค้างไป แต่หลังจากนั้นเขาก็แปลกไป เรียกหอมตลอดบอกว่ารักนะรักนะ ทำแบบนี้อยู่ 2-3วัน เขาบอกว่าเหนื่อยมากเลย นึกว่าเขาเหนื่อยจากแผล เพราะเข้าโรงบาลล่าสุดนึกว่าเขาเพลีย ก็บอกให้เขานอน เหนื่อยก็พัก

วันที่ 18 จู่ๆ เขาก็มีอาการเกร็ง พี่ก็เรียกฉุกเฉิน หลังจากนั้นพี่กับเขาก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย เพราะเขาไม่มีสติอีกเลย สังหรณ์ใจเหมือนกัน เพราะปกติพี่เมฆไม่เคยบ่นว่าหนื่อย พี่เมฆจะพูดเสมอว่าให้สู้ไปด้วยกันนะสู้อีกนิดเดียวก็จะหลุดแล้ว เราก็ใจไม่ดี แต่ไม่คิดว่าเขาจะไป คิดว่ารอบนี้อาจจะหนัก

ก่อนหน้านี้พี่เมฆดีขึ้นช่วงนึง แล้วเขาก็เหมือนมีแผลเยอะ เขาก็เลยไปให้เลือดกับให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล คืนแรกที่เขาไป เขาบอกว่าเขาฝัน ว่ามีคนบอกให้เขารูดออกให้หมดเอา ออกให้หมด แล้วเขาก็ไปรูดผิวหนังตัวเองออกหมดเลย ขา แขน เป็นแผลเต็มไปหมดเลย พี่ตื่นขึ้นนึกว่าเขาเป็นอะไร พอเดินไปดูเห็นเลือกท่วมเตียง ก็เรียกพยาบาลเข้ามาดู ปรากฏว่าถุงที่ให้เลือดถูกถึงออกหมด พอมีสติเขาบอกเขาขอโทษ เขายังหัวเราะอยู่เลย บอกว่าฝันมีคนบอกให้เขารูดออก หลังจากนั้นก็เป็นแผล

เมื่อคืนนี้ตอนแรกเขาประเมินว่ามันมีการติดเชื้อในกระแสเลือด เพราะอุณภูมิในร่างกาย 36 องศาตลอด ความดันเขาตก หัวใจเขาเต้นช้าลง น้ำเริ่มท่วมปวด แต่ด้วยความที่ความดันตก ไม่สามารถรีดน้ำออกจากปอดได้ เป็นภาวะที่อันตราย ก็เลยปล่อย พี่ก็อยู่กับเขาทั้งวันอยู่จนเขาไป

หมอก็ให้เข้าไปคุย บอกกับเขาว่าให้เขาสู้ แต่ถ้าสู้ (ร้องไห้) มัน 5 ปีเนาะ มันยาวนาน เขาสู้มาตลอดอยู่แล้ว เขาคิดถึงครอบครัวตลอด พี่ก็บอกว่าให้สู้ให้ถึงที่สุด แต่ถ้ามันไม่ไหวถ้าหนื่อย พี่ก็พักนะ ถ้าไม่ไหวก็พอแล้ว

เมื่อวานคุณหมอบอกตั้งแต่เช้าว่าอาการนี้มันเสี่ยง มันอันตรายมากพี่ทำเรื่องส่งตัวไปจุฬา แต่ด้วยความที่ความดันมันต่ำลงเรื่อยๆ มันเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไม่ได้ ทางโน้นก็ไม่กล้ารับทางนี้ก็ไม่กล้าส่ง เพราะเกิดจากอาการของเขามันแย่ลง แล้วพี่เห็นเขาเหนื่อยร่างกายกระตุกตลอด

ช่วงหลังเขาเจ็บมาก เขาเหนื่อย เรารักเขานะรักแบบทำให้ได้ทุกอย่าง พอวันที่มันทรมานมากๆ เราก็รู้ว่าเขายังห่วงอยู่ พี่ก็ต้องบอกเขาว่าพี่ไหว เขาก็ถามพี่เสมอ พี่ว่าที่เขาฝืนเพราะเขากลัวพี่ไม่ไหว แต่หลังๆ พอพี่บอกบ่อยว่าพี่ไหว พี่ทำได้ไม่ต้องห่วง เขาก็คงหมดห่วง

ไม่ต้องห่วงแล้ว ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี พี่เมฆทำดีที่สุดแล้ว พี่เมฆอดทนเพื่อครอบครัวมาเยอะมาก เป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดีของลูก พี่เมฆสร้างเป้าหมายให้ลูกตลอดเวลา จากวันนี้ไปสิ่งที่เมฆต้องการจะสานต่อ พี่จะทำทุกอย่างให้ลูกให้ที่สุด ในฐานเมีย ฐานะแม่

ก่อนที่เขาจะมีอาการหนัก พี่วางแผนเปิดบริษัทเพิ่ม แล้วก็คุยธุรกิจเพิ่มไปแล้ว เริ่มมีการดิลกันหมดแล้ว บริษัทใหม่ก็เปิดแล้ว แล้วเขาก็มาทรุด

ส่วนเรื่องที่เพื่อนๆ ในวงการกำลังจะทำคอนเสิร์ต พี่บอกก่อนว่า ด้วยความที่พี่เมฆเป็นหัวหน้าครอบครัว เมื่อก่อนเขาเคยหาเงินได้ พอวันที่เขาก็เงินไม่ได้เขาเครียดมาก อย่างที่บอกเขาไปหยิบยืมเพื่อนบ้างพี่น้องบ้าง เพราะเขารู้สึกว่าเขาต้องรับผิดชอบ จนกระทั่งเขาทำถึงที่สุดแล้ว พี่ก็เลยว่าพี่จะรับต่อเอง จริงๆ ก็เป็นแบล็กให้ตลอด แต่พอเขาเริ่มเหนื่อย เราก็มาทำด้านหน้าแทน แล้วก็ทำเพิ่มเพื่อนที่จะมีรายได้มาจุนเจือครอบครัวอยู่แล้ว

แต่ในส่วนของเขา เขาได้คุยกับพี่หนุ่ม แล้วพี่หนุ่มก็เลยว่าบอกว่ามนการเพื่อนช่วยเพื่อน เพราะเขารู้ว่าพี่เมฆมีค่าใช้จ่ายทั้งค่ายาและค่ารักษาตัว บางคนบอกว่าค่ายาพี่เมฆไม่ได้แพง แต่ค่าดูแลเขาแพง ด้วยความที่เขามีแผลทั้งตัว ทุกอย่างเขาต้องพลาสเจอร์หมด ใครที่เคยไปสัมภาษณ์ที่บ้านจะเห็นอุปกรณ์ของเขาค่อนข้างเยอะ อุปกรณ์ของเขาคือค่าใช้จ่าย ซึ่งคนที่รู้คือคนใกล้ตัว พี่หนุ่ม พี่ไปร์ท หรือเพื่อนๆ สนิทที่เคยมาบ้าน เขาก็จะรู้ว่ามันหนัก ซึ่งพี่ไม่เคยให้เขารับรู้ค่าใช้จ่าย แต่พอเขาเริ่มมารู้เขาก็เริ่มมีความเครียด พี่หนุ่มเขาก็เลยหาทางออกว่า เงินก้อนนี้จะเป็นเงินช่วยพี่เมฆรักษาตัว เพราะเขาโรงพยาบาลเอกชน พอขึ้นหลักแสนพี่เมฆเขาก็จะเครียด พี่หนุ่มก็บอกว่าไม่ต้องเครียดหรอก เพราะงานคอนเสิร์ตนี้จัดขึ้นก็จะมาซัพพอร์ตโน้นนี่นั่น เพราะเขาเข้าโรงพยาบาลทั้งหมด 3 รอบ แต่คอนเสิร์ตก็ยังจะจัดปกติ หลังจากเสร็จงานพี่เมฆเรียบร้อยแล้ว

เขาขอบคุณเพื่อนๆ ในวงการบันเทิงเสมอ ถ้าไม่ป่วยเขาก็ไม่รู้ว่ามีคนรักเขามากขนาดนี้ เพราะเขาเป็นคนไม่ค่อยพูดและเป็นคนที่พูดไม่ค่อยระวังด้วย แต่เขาเป็นคนจริงใจมาก บางทีเจตนาการพูดของพี่เมฆกับคนฟังอาจจะไม่ได้ชอบใจ แต่พี่เมฆพูดเสมอว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ ณ วันนี้ ขอให้แฟนคลับพี่เมฆที่ฟังอยู่ อโหสิกรรมให้พี่เมฆ พี่เมฆเขาอยากอโหริกรรมตัวเองด้วยซ้ำไป ก่อนที่เขาจะล้มเขามาคุยกับพี่ (ร้องไห้) เขาจะสัมภาษณ์ วันนี้พี่ก็เป็นตัวแทนเขา ขออโหสิกรรมให้กับทุกคนที่คิดว่าคำพูดของพี่เมฆไปแทงใจ คิดว่าคำพูดของพี่เมฆทำให้บั่นทอน เพื่อนทุกคนที่รู้จักพี่เมฆ ถ้าเขาไม่ดีในระดับที่เพื่อนรักได้ ก็คงไม่มีใครจัดคอนเสิร์ต เขาอยากจะขอบคุณศิลปินทุกคนที่มาในวันนั้นด้วย

พี่ทำเต็มที่แล้ว เชื่อว่าสิ่งที่พี่ทำมันทำให้เขาไปได้อย่างสงบ เพราะเราก็สร้างกำลังใจมาตลอด พยายมสร้างพลังบวกกันมาตลอด อยากให้หลายคนที่ท้อมีกำลังใจ เขาพูดตลอดว่าสังคมสมัยนี้มันบั่นทอน หลายๆ คนก็ท้อ เขาก็เลยอยากเป็นแรงบันดาลใจอยากให้ทุกคนเห็นว่าเขาไม่ท้อและเขาสู้ และอยากให้คนรักสมัยใหม่คิดให้เหมือนกัน เวลามันตกมันล้มก็ต้องอยู่เคียงข้างกัน เวลามีความสุขก็ต้องย้อนกลับไปคิดว่า ช่วงที่เราทุกช์ มันขนาดไหน หลายๆ คนที่เห็นพี่กับพี่เมฆเป็นตัวอย่างก็อยากจะบอกว่ามันคุ้มมันเป็นความสุขทางใจ ลูกก็รับรู้”

ที่มา : วินัย ไกรบุตร

ติดตามข่าวสารช่องทางอื่นๆ DARA 2U

Facebook : Dara 2U

Twitter : DARA 2U

Instragram : dara.2u

TikTok : dara2you

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า