“หนุ่ม กะลา” แถลงปมอดีตภรรยา ยักยอกเงินไป วอนปิดหนี้ 10 ล้านแล้วจะจบ

8 มิถุนายน 2024

เคลียร์แล้ว? สำหรับประเด็นร้อน “หนุ่ม กะลา” แถลงปมอดีตภรรยา “จูน เพ็ญชุลี” ยักยอกเงินห้างหุ้นส่วนจำกัดเข้าบัญชีส่วนตัวไปกว่า 66 ล้าน วอนปิดหนี้ 10 ล้านแล้วจะจบ

หลังจากนักร้องชื่อดังอย่าง หนุ่ม ณพสิน แสงสุวรรณ หรือ หนุ่ม กะลา เข้าไปพบทนายดังอย่าง ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ มอบหมายให้ทนายเดชายื่นฟ้องคนใกล้ชิดจำนวน 2 คนที่ยักยอกเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัดทองบริบูรณ์ 365 ทำเอาหลายคนจับตาว่าเกี่ยวข้องกับอดีตภรรยาอย่าง จูน เพ็ญชุลี หรือไม่

ที่มา : ทนายคลายทุกข์

หนุ่ม กะลา แถลงปมอดีตภรรยายักยอกเงินไป

ล่าสุด หนุ่ม กะลา และ ทนายเดชา ได้ออกมาชี้แจงแล้ว โดย หนุ่ม กะลา เผยว่า “ได้คุยกับทางอดีตภรรยามาตลอดหลายเดือนแล้ว ผมบอกว่าเป็นหนี้ 10 กว่าล้าน ผมเป็นนักร้อง 26 ปี ทำไมถึงเป็นหนี้ 10 ล้าน เพราะว่ามีทั้งหนี้รถ บ้าน คอนโด พอมาเช็คสเตตเมนต์จึงได้ทราบว่ามีเงินรั่วไหลไปบัญชี จูน เพ็ญชุลี มากว่า 9 ปี (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 – 2566) จึงมาพบ ทนายเดชา ที่ออกมาครั้งนี้ไม่ได้จะเอา 66 ล้านคืน ต่อให้ 100 ล้านก็ไม่เอาคืน แต่ผมบอก จูน ว่าปิดหนี้ให้หน่อย ขอเงินติดตัวสัก 5 ล้านได้ไหม แล้วจบกัน เรื่องอยากหย่าทาง จูน พูดว่าจะหย่าประจำ แต่ผมบอกว่ายังหย่าไม่ได้ เพราะยังไม่เคลียร์เรื่องทรัพย์สินว่าเงินของผมอยู่ที่ไหน นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น

ส่วนเรื่องเงินเดือนผมอยู่ด้วยเงินเดือนละ 4 หมื่น และตั้งแต่แยกบ้านกับ จูน ผมอยู่ด้วยเงิน 4 หมื่นไม่ได้ มีค่าเลี้ยงลูกน้องด้วย ผมต้องรับผิดชอบหลายอย่าง เลยขอเขาเพิ่มเป็นเดือนละ 1 แสนบาทมาได้ 1 ปีครึ่งแล้ว หลังจากที่ทราบเรื่องว่ามีการเอาเงินไป ผมก็ได้ไปคุยกับ จูน แล้วแต่เขาบอกไม่ได้เอาไป ซึ่งหลักฐานทุกอย่างมันฟ้องอยู่ในสเตตเมนต์อยู่แล้ว ผมไม่คิดว่าคนๆ นึงจะร้ายขนาดที่เลิกกันไปแล้วจะทิ้งหนี้ทุกอย่างให้ เรื่องอยากฟ้องร้องกันก็ฟ้อง มันแบ่งสินสมรสไม่ได้ครับ ของทั้งหมดที่เป็นหนี้เขาให้ผม แต่ของที่เขาผ่อนแล้วเขาเอาไป”

ด้าน ทนายเดชา กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า “ความประสงค์ของลูกความอยากให้จบด้วยดี ในเมื่ออยู่ด้วยกันไม่ได้ก็แยกย้ายกันไป หนี้สินก็มาเคลียร์กัน เคลียร์ในศาลนะ ไม่ใช่ใช้สื่อมาโจมตีกัน” ทาง หนุ่ม กะลา พูดเสริมอีกว่า “เรื่องการอย่ายังไงก็ต้องหย่า เราทั้งคู่ก็คุยกันแล้วว่าต้องหย่า แต่ต้องมาเคลียร์เรื่องหนี้สินกันก่อน ไม่ใช่ใช้สื่อบีบ กดดันผม แล้วมันเกิดผลกระทบต่องาน ต่อลูก เกิดผลกระทบเยอะมาก แล้วผมยังต้องทำงานใช้หนี้อีก ที่ออกมาฟ้องผมไม่ได้อยากเอาเงินคืน ถึงจบเรื่องนี้ผมก็จะส่งค่าเลี้ยงดูลูกต่อไป ครั้งที่แล้วผมรู้สึกผิด ผมขอโทษ แต่ครั้งนี้ถ้าเขาทำผิดจริงๆ ผมแค่อยากได้ในส่วนที่เป็นธรรมกับผม”