เฉลยแล้ว! ดาราหนุ่มร้องสื่อ ถูกแฟนเก่าดาราสาวรุ่นใหญ่ ทำเดือดร้อน เป็นใคร!

29 มิถุนายน 2023

เฉลยแล้ว! ดาราหนุ่มร้องสื่อ ถูกแฟนเก่าดาราสาวรุ่นใหญ่ ทำเดือดร้อน! เอารถหรูไปซ่อนไม่ยอมผ่อนจนฝ่ายชายจ่อถูกฟ้อง

จากกรณีที่ ปอเปี๊ยะ กาลเวลา ได้ออกมาหย่อนคำใบ้ในเฟซบุ๊ก ว่า เกิดไรขึ้น? “ดาราหนุ่มโร่ร้องสื่อ แฟนเก่าที่เป็นดาราสาวรุ่นใหญ่ทำเดือนร้อน เอารถหรูไปซ่อนไม่ยอมผ่อนจนฝ่ายชายจ่อถูกฟ้อง วันพฤหัสบดีที่ 29 มิ.ย.66 เวลา 10.30 น. ที่ศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด ถ.สายไหม 38 เขตสายไหม

นักแสดงหนุ่ม อดีตแฟนนางเอก – นักแสดงชื่อดัง เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด อ้างว่าหลังจากเลิกลากับนักแสดงรุ่นใหญ่ ตนได้ย้ายกลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่ โดยฝ่ายหญิงได้ขอรถยนต์หรูและบ้านซึ่งเป็นชื่อฝ่ายชายไว้และรับปากว่าจะทำเรื่องเปลี่ยนชื่อสัญญาให้เร็วที่สุด

ต่อมาพบว่าทั้งบ้านและรถยนค์หรูที่นักแสดงรุ่นใหญ่ขอเอาไว้ ค้างผ่อนค่างวดกว่า 5 เดือน จนทำให้บ้านถูกธนาคารยึดทำให้เสียเครดิต ส่วนรถยนต์ทางไฟแนนซ์ได้เตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีกับตน เนื่องจากอดีตแฟนนักแสดงคนดังกล่าว ไม่ยอมผ่อนต่อและได้นำรถไปหลบซ้อนไม่ยอมส่งมอบรถคืน ทำให้ตนได้รับความเดือดร้อนจึงมาขอความช่วยเหลือ

ภาพจาก ปอเปี๊ยะ กาลเวลา

เพจดัง เผยหน้าดาราหนุ่ม

ล่าสุดในเพจของ ปอเปี๊ยะ กาลเวลา ได้ออกมาเผยถึงเรื่องนี้เพิ่มเติมว่า “เปิดหน้า “ฟร้อง ศุภกิจ” ดาราหนุ่มออกมาร้องสื่อแฉดาราสาวรุ่นใหญ่ ตอนรักกันหวานชื่นช่วยทำมาหากิน ออกรายการคู่ ตอนเลิกกันถูกกล่าวหาฝ่ายเดียวก็ยอมทนกลัวความเป็นดารารุ่นใหญ่ สนิทนักข่าว หวั่นมีอิทธิพลสื่อแต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว! ตัวเองขอออกมาพูดบ้าง เพราะเดือดร้อนหนักขั้นจะถูกฟ้องอยู่รอมร่อ”

ภาพจาก ปอเปี๊ยะ กาลเวลา

ฟร้อง ศุภกิจ เปิดใจครั้งแรก

โดยด้าน ฟร้อง ศุภกิจ ได้เปิดใจกับ บันเทิงเวิร์คพอยท์ ว่า “เลิกกันมาตั้งแต่ต.ค.ปี65 ตอนนั้นเรื่องทรัพย์สินมีการคุยกัน โดยเอ้ ได้บอกว่าจะเป็นคนรับผิดชอบผ่อนเอง ทั้งบ้านและรถ โดยมีการเซ็นสัญญากันไว้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาไม่ผ่อนเลย เพราะตนเช็คกับแอพฯของธนาคาร จนทำให้ไฟแนนซ์ทักมาทวงถามจนกระทั่งเสียเครดิตในที่สุด เพราะค้างจ่ายถึง 5 งวด

ตนเองก็ไม่มีงานไม่มีรายได้อะไร ตอนนี้แค่ช่วยแม่ขายของ กับภาระที่ต้องจ่ายถึง4หมื่น จึงไม่สามารถหาได้แน่นอน ตอนนี้อยากให้เขารับผิดชอบทำตามสัญญา เรื่องรถตนอยากได้คืนแต่ก็ไม่รู้รถอยู่ไหน เขาเอาไปหลบซ่อนหรือเปล่า ลึกๆแล้วกลัวว่าเขาจะนำไปขาย

ที่ผ่านมาเขาก็มีข้อดีเพราะสั่งสอนเราหลายๆ อย่าง ทั้งการวางตัว การทำงาน การใช้ชีวิต แต่เรื่องข้อเสียมันก็มีโดยเฉพาะเรื่องเงินๆ ทองๆ เขามักไปกู้จากตรงนั้นตรงนี้มา บางครั้งเราเองก็ต้องไปจ่าย ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ไม่อยากรู้จักเลยด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าจะทำกันแบบนี้

ตนเครียดมากจนเกือบจะเป็นซึมเศร้า นั่งเหม่อลอยไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาครอบครัวหรือคนรอบข้างก็เตือนแล้วว่าอย่าคบกัน แต่เราไม่เชื่อ ถ้าเขาดูอยู่ก็อยากให้เขากลับมารับผิดชอบ”